
7 วิธีดูแลน้องแมว ให้ฉลาดสุขภาพดี
7 วิธีดูแลน้องแมว ให้ฉลาดสุขภาพดี เดี๋ยวนี้คนเราหันมาใส่ใจเรื่องสัตว์เลี้ยงมากขึ้น และสัตว์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ก็คือน้องเหมียว หรือเจ้าแมว จนกำเนิดเป็นคำว่าทาสแมวดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง สัตว์ทุกประเภทล้วนต้องการการเอาใจ และดูแลลเป็นอย่างดี บทความของเราในวันนี้ จึงขอแนะนำ 7 วิธีดูแลน้องแมว ให้ฉลาดและสุขภาพดี เพื่อให้การเลี้ยงของท่านสมบูรณ์แบบที่สุด ส่วนแต่ละวิธีจะต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง ตามไปดูกันเลย
1. ดูแลเรื่องเล็บของน้องเหมียวเสมอ
บ้านไหนมีเฟอร์นิเจอร์แพง ๆ หรือมีเด็ดเล็กในบ้าน ที่ชอบเล่นกับน้องเหมียว ท่านจะมองข้ามเรื่องเล็บไปไม่ได้ เพราะหากเล็บบน้องเหมียว ไม่ได้รับการดูแล มันจะทั่งยาวและคม เป็นเหตุให้เฟอร์นิเจอร์ในบ้านท่าน เป็นรอยเวลาที่น้องแมวปีนป่ายขึ้นไปเล่น หรือไม่หากน้องแมวไปเล่นกับเด็ดเล็กในบ้าน เล็บของมันอาจจะเผลอไปข่วนผิวเด็ก ๆ ได้
ฉะนั้น ท่านจะต้องเริ่มฝนเล็บของน้องแมวไม่ให้คมมากเกินไป การเลือกซื้อที่ฝนเล็บสักชิ้นไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะคุณสมบัติและประโยชน์ในการใช้สอยจะขึ้นอยู่กับขนาด และราคาของสินค้า แต่ท่านไม่มีความรู้เรื่องนี้สักนิดเดียว ลองปรึกษาร้านขาย ให้เขาแนะนำสินค้าที่ดีที่สุดให้ท่านได้เลย
2. น้องเหมียวขนสวย = สุขภาพดี
แม้น้องแมวจะขึ้นชื่อเรื่องเป็นสัตว์รักความสะอาด แต่ผู้ดูแลก็ไม่ควรปล่อยให้มันทำความสะอาดตัวเองเพียงอย่างเดียว ท่านจะต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่ เรื่องความสะอาดของขนน้องแมวอยู่เสมอ วิธีการช่วยดูแลขนของน้องเหมียวให้สวยอยู่เสมอ คือการช่วยเขาหวีขนบ่อย ๆ เพื่อกำจัดขนที่กำลังจะหลุดร่วง
แต่ไม่สามารถหลุดออกมาได้เองตามธรรมชาติ หากท่านทำเป็นประจำสม่ำเสมอ ปัญหาขนร่วงขนหล่นของน้องเหมียว ก็จะหมดไปในที่สุด แล้วคนที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด ก็คือท่านเอง เพราะไม่จำเป็นต้องมานั่งเสียเวลาปัดกวาดเช็ดถูขนต่าง ๆ ซ้ำ ๆ

3. ให้อาการอย่างถูกวิธี
อาหารถือเป็นปัจจัยหลัก ที่ส่งเสริมพัฒนาการ และช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตของน้องเหมียว ฉะนั้น การเลือกสรรอาหารที่ถูกต้อง และเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย รวมถึงแต่ละสายพันธุ์ คือสิ่งที่เจ้าของ หรือผู้ดูแลลมองข้ามไม่ได้เด็ดขาด หากท่านต้องการให้น้องเหมียวที่ท่านรัก มีพัฒนาการทางร่างกาย และเจริญเติบโตอย่างราบรื่นไม่มีติดขัด
แต่เดี๋ยวนี้เรามีตัวเลือกในเรื่องอาหารมากมาย เพราะมีบริษัทผลิตอาหาร สรรหาสูตรต่าง ๆ ที่ส่งเสริมในด้านพัฒนาการของน้องเหมียวออกมาวางขายเพียบ วิธีเลือกอาหารที่เหมาะสมกับน้องเหมียว ขั้นแรกท่านต้องดูว่าน้องเหมียวของท่านเป็นสายพันธุ์ไหน
หรือต้องการให้น้องเหมียวมีพัฒนาการในด้านใด หากลองแล้วน้องเหมียวไม่ชอบไม่ทาน อย่าเพิ่มถอดใจไปทันที ให้ลองให้ซ้ำ ๆ สัก 2 – 3 ครั้งก่อน หากรอบหลังที่ให้ยังเป็นเหมือนเดิม ค่อยเริ่มเปลี่ยนอาหารเป็นรปแบบใหม่
4. ควรมีป้ายชื่อยืนยันตัวตัน
เดี๋ยวนี้เราเห็นข่าวน้องเหมียวหายบ่อยมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการติดประกาศตามหา หรือประกาศตามโซเชียวมิเดียต่าง ๆ อย่างที่หลาย ๆ ท่านทราบ น้องเหมียวเป็นสัตว์รักอิสระ เขามักจะเดินทางออกจากบ้าน ไปท่องเที่ยวตามที่ต่าง ๆ หรือหาที่พักผ่อนที่อยู่แล้วสบายใจเสมอ จะกลับอีกทีก็โน้นเลย ตอนที่น้องหิวเท่านั้น
ฉะนั้น เพื่อเพิ่มความสบายใจให้กับตัวเองในเรื่องความปลอดภัยของน้อง ผู้ดูแลหรือเจ้าของ ควรจะหาป้ายชื่อสวย ๆ ห้อยไว่ที่คอน้องสักชิ้น โดยป้ายชื่อนอกจากจะบอกชื่อน้องแล้ว ต้องแจ้งเบอร์ติดต่อของเจ้าของเอาไว้ให้ชัดเจน เผื่อน้องเดินเล่นไปไกล จนหาทางกลับบ้านไม่ได้ คนที่พบเห็นจะได้ติดต่อกลับมาถูก
5. สั่งสอนน้องเหมียวได้ตามสมควร
แมวเองก็สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากการสั่งสอนของมนุษย์ได้ดีไม่ต่างจากสัตว์อื่น ๆ ฉะนั้น อย่าได้มองข้ามเรื่องการสั่งสอน แล้วปล่อยเบลอตามธรรมชาติตลอดเวลาเด็ดขาด โดยการฝึกที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตแมว ก็คือการใช้กระบะทรายในการขับถ่าย
หมั่นฝึกฝนตั้งแต่เจ้าเหมียวยังเด็ก ๆ เพื่อสร้างการจดจำ และนำไปสู่พฤติกรรมอันเป็นนิสัย หากอยากให้น้องเหมียวชินเร็ว และจำไวขึ้น ลองหามุมเหมาะสมในบ้านสักมุม เป็นที่ตั้งกระบะทราย รับรองเจ้าเหมียวขับถ่ายเป็นที่แน่นอน
6. เรื่องทำหมัน ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
หากท่านไม่อยากให้น้องเหมียวมีลูกมีหลาน หรือเลี้ยงเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ ให้ท่านตัดสินใจทำหมันไปเลย หากไม่รู้ว่าเวลาไหนเหมาะสมกับการทำหมัน ให้ท่านลองปรึกษาสัตวแพทย์ตามคลินิกดู
เพราะเขาจะรู้เวลาเหมาะสมกับการทำหมันอยู่แล้ว ข้อดีของการทำหมันอีกอย่าง คือจะช่วยเรื่องลดอาการฉี่ของเจ้าเหมียว ฉะนั้น พิจารณาดูนะคะ ว่าอยากได้ลูกหลานของน้องเหมียว หรืออยากทำหมันให้น้อง

7. พาออกกำลังกาย อย่าให้ขาด
เรื่องการออกกำลังกาย ไม่ได้สำคัญเฉพาะ กับมนุษย์เท่านั้น แต่สัตว์ต่าง ๆ ก็ต้องออกกำลังกายเช่นกัน หากน้องเหมียวได้ยืดเส้นยืดสายอย่างเพียงพอ โรคภัยไข้เจ็บก็จะไม่ถามหา ไม่ว่าจะเป็น โรคอ้วน การขับถ่ายบกพร่อง และอื่น ๆ
การออกกำลังกายจะช่วย ให้น้องเหมียวเป็นมิตร แถมยังร่าเริงสดใสตลอดเวลาอีกต่างหาก แค่ท่านหาของเล่นที่ถูกใจ มาเล่นกับเขาในแต่ละวัน หรือพาเขาเดินเล่นตามที่ต่าง ๆ ก็เท่ากับเป็นการออกกำลังกาย ให้น้องเหมียวไกลจากโรคภัยแล้วค่ะ
เอาใจสายขนมหวาน หรือชาไข่มุก ด้วยการพาไปชมร้าน ชาไข่มุกในตำนาน ที่จัดจ้านเรื่องคิวยาว ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นร้านที่โด่งดัง และสายหวานต้องชอบเป็นอย่างแน่นอน ถึงจะคิวยาวไปหน่อย แต่รับรองว่าถูกใจแน่นอน
บทความที่น่าสนใจ : 5 สูตรน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ ทำง่ายขายดี